ยำจิ้นไก่ใส่หัวปลี

พ่อค้าขายสะตอคนเมื่อวานมาอีกแล้ว วันนี้มีหลายผักไม่ได้ขายสะตออย่างเดียว
ว่าจะไม่ซื้ออะไรเพราะยังมีผักที่ยังไม่ได้กำจัดอยู่หลายอย่าง

พอดีเหลือบไปเห็นหัวปลี  นานๆ เห็นมาขายเสียที

เลยเลือกหัวขนาดกลางมาหนึ่งหัว 10 บาท ว่าจะมาทำแกงหัวปลีให้คุณนายแม่

จากที่แรกว่าจะทำแกงใส่ชะอม แต่นึกได้ว่าอยากทำยำจิ้นไก่ใส่หัวปลีแบบทางเหนือมาหลายรอบแล้ว

เปลี่ยนใจแล้วกัน (แม่ครัวคนนี้เป็นบ่อยค่ะ เรื่องปกติมาก)
สูตรนี้เป็นของคุณนายแม่ ไม่ได้ทำมานาน ไปถามวิธีทำบางขั้นตอนให้แน่ใจอีกรอบ
แต่พอทำเสร็จยกมาเสริฟ แม่บอกว่านึกว่าทำต้มยำไก่หัวปลีแบบของคุณตา
อ้าว...คุณนายหลงซะแล้ว ไว้ครั้งหน้าค่อยทำแล้วกันนะคะ

หัวปลีลอกเปลือกหนาด้านนอกออกและนำไปต้มทั้งหัว แล้วก็ฉีกเป็นเส้น

ไก่เราว่าเนื้ออกล้วนแห้งไป เราชอบเนื้อไก่แบบติดเอ็นติดมันมีหนัง
เลยใช้ไก่ส่วนสะโพกติดน่อง 1 ชิ้น นำไปต้มกับตะไคร้บุบ 1 ต้นใหญ่ รากผักชี น้ำปลาร้า

...ส่วนของน้ำปลาร้าเราใช้เป็นปลาร้าสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มไก่ที่ได้จะมีรสชาตินัวกว่าน้ำปลาร้าล้วนค่ะ

พอต้มไก่ได้ที่ก็นำมาฉีกเป็นชิ้น ส่วนน้ำต้มเก็บไว้เอามาผสมกับยำ

น้ำพริกสำหรับยำ

* พริกแห้ง 10 เม็ด

* ข่า 5 แว่น

* หอมแดง 5-6 หัว

* กระเทียม 5 กลีบ

* กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ

* มะแขว่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (ไม่เอาเมล็ดดำนะคะ)

* ขมิ้นสด 1 ข้อ

ตำทุกอย่างให้ละเอียด
เอาไปผัดกับน้ำมันประมาณ 3 ช้อนโต๊ะด้วยไฟอ่อนๆ จนหอม
(เราไม่มีขมิ้นสดเลยใส่ขมิ้นผง...ใส่ให้ยำสีสวย)

 

 ไก่กับหัวปลีคลุกกับน้ำพริกสำหรับยำ ใส่น้ำต้มไก่ลงไปปริมาณตามที่ต้องการ

ปรุงรสเพิ่ม ต้องการเค็มเพิ่มเติมเกลือ ยังเผ็ดไม่สะใจเติมพริกป่นคั่ว
บางคนชอบบีบมะนาวลงไปให้รสเปรี้ยว แต่ของเราไม่ได้ใส่จ้า

 ใส่ผักโรยเท่าที่มีต้นหอม ผักชี ผักชีใบเลื่อย
ถ้ามีผักแพว ใบสะระแหน่ ก็ใส่ไปด้วย

โรยผักเพื่อความสวยงามอีกรอบ แนมกับพริกขี้หนูแห้งทอด(ไม่ได้ทอดไว้ค่ะ แหะ..แหะ..)

สูตรของแม่(ก็เอามาจากคุณตาน่ะแหละ)

จะโรยหอมแดงเจียวกรอบๆ ด้วยค่ะ

เวลาทานแล้วกรุบๆ หอมๆ เรียกน้ำย่อยดีนักเชียว

(ซุปเปอร์) วุ้นเส้นผัดสามเหม็น

เมนูวุ้นเส้นผัดสามเหม็นเคยทำลงที่ Bloggang ไปเมื่อนานแล้ว

แต่วันนี้เป็นเมนูที่เกิดจากความอยากทานหลายเมนูพร้อมกัน 

เลยทำให้กลายเป็น "ซุปเปอร์วุ้นเส้นผัดสามเหม็น" 

วุ้นเส้นผัดสามเหม็น bloggang คลิ๊กที่นี่

พ่อค้ารถเข็นผ่านมาหน้าบ้านถามช่วยซื้อสะตอ ไม่ได้ทานนานแล้วว่าจะเอามาผัดกะปิใส่เนื้อสับ

สักพักแม่ค้าเข็นรถมาบอกวันนี้มีชะอมด้วยพี่ เพราะสั่งแม่ค้าเอาไว้ว่าถ้ามีชะอมให้เรียกด้วย

เพราะจะเอามาทำวุ้นเส้นผัดชะอมโปะไข่เจียว เมนูสุดร้อนแรงของคุณแม่ครัวกระทะหลุดบ่งบ๊ง

แต่พอมีทั้งสะตอทั้งชะอม ชักโลเลอีกแระเพราะมีกระเทียมดองอยู่ 

ผัดสามเหม็นดีกว่ามั๊ย ไม่ได้ทำนานแล้ว

มีเห็ดหูหนูอยู่ถุงซื้อมาหลายวันต้องหาทางกำจัด งั้นใส่เห็ดแทนเนื้อสัตว์

เจียวกระเทียมสับ พริกตำลงผัดให้หอม ใส่สะตอกับกระเทียมลงไปผัด

เห็ดหูหนู พริกแดงจินดาแฉลบและวุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่มตัดเป็นท่อนๆ ตามลงไป

เติมน้ำนิดหน่อยผัดจนวุ้นเส้นนิ่ม เติมน้ำกระเทียมดองสัก 2 ช้อนโต๊ะ

ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย พริกไทย ผัดให้เข้ากัน
ใส่ชะอมปิดท้าย

สีคล้ำหน่อยเพราะแอบเติมกะปิละลายน้ำใส่ไปหน่อย.....เอิ๊กกก
แบบทีแรกอยากทำสะตอผัดกะปิไง ก็เลยใส่กะปิลงไปจะได้ไม่ค้างคาใจ

อีนี่จะไม่ใส่ก็ได้นะคร๊า แต่คุณนายแม่บอกว่าอร่อย นัวดีค่ะ

ไหนๆ ก็ไหนๆ ชะอมที่ซื้อมาไม่ได้ทำวุ้นเส้นผัดชะอมแนมไข่เจียวของคุณบี๊ตามที่ตั้งใจ

งั้นก็เอาแบบใกล้เคียงเลียนแบบแล้วกัน

จัดการตอกไข่ 2 ฟอง เจียวไข่ฟูๆ สักแผ่น จะได้ไม่เกิดการค้างคาใจ

กลายมาเป็น (ซุปเปอร์)วุ้นเส้นผัดสามเหม็นแนมไข่เจียว

ที่เพิ่มชื่อเป็นซุปเปอร์เพราะมีกะปิเพิ่มความเหม็นเข้าไปอีกอย่างน่ะค่ะ

อร่อยมากค่ะ สองคนกับคุณนายแม่จัดการซะหมดจาน

มีไข่เจียวแนมด้วยอร่อยเริ่ด เข้ากันมาก

ขอบคุณคุณบี๊นะคะสำหรับไอเดียไข่เจียวกินแนมแจ่มๆ แบบนี้ ^^

โซะบ่าโอ - ยำส้มโอใส่น้ำปู

เมนูตำๆ ยำๆ ของโปรดอีกจาน

ตอนทำงานประจำแล้วต้องขึ้นไปตรวจงานที่เชียงใหม่บ่อยๆ

มีเพื่อนหลายคนที่ไม่เคยทานน้ำปูมาก่อน ได้ทานจานนี้แล้วติดใจกันเป็นแถว

เรียกว่าถ้าได้ขึ้นเชียงใหม่ทีไรก็ต้องได้หาสั่งมาทานกันทุกครั้ง
แต่ที่แม่บอกอร่อยสุดเท่าที่กินมาต้องเจ้าที่ขายหน้าโรงพยาบาลแมคคอมิค
แต่น่าจะเลิกขายไปแล้วแหละ คนขายชื่อภารุ่นราวคราวเดียวกับแม่

 

นี่นึกอยากทานมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่แฟนเพจมาพูดถึงยำส้มโอร้านเพ็ญที่เชียงใหม่

ส้มโอที่ยำต้องส้มโอเปรี้ยว หรือเปรี้ยวอมหวานนิดๆ

เจอแต่ส้มโอหวานเลยไม่ได้ทำสักที จนมาเมื่อตอนบ่ายแก่ๆ มีแม่ค้าเอาส้มโอลูกน้อย

มาขายแถวบ้าน เป็นส้มโอเปรี้ยว ทำเอาอยู่ไม่ติด คุ้ยหาวัตถุดิบที่มีในตู้เย็นมาจัดการ

กว่าจะทำเสร็จแดดร่มพอดี ถ่ายรูปไม่ค่อยชัดแต่ก็อยากเอามาลงอัพบล๊อกไว้

* ส้มโอเปรี้ยว ถ้ายังไม่เปรี้ยวพอใช้มะนาวช่วยเพิ่มค่ะ

* พริกขี้หนูสวนเกือบ 20 เม็ด

* กระเทียม 4-5 กลีบ

* น้ำปูประมาณ 2/3 ช้อนโต๊ะ
* กะปิปลายช้อนโต๊ะ

* มะเขือขื่น 2 ลูก (ไม่มีเลยใช้มะเขือเปาะแทน)
* ตะไคร้ซอย 2 ต้น

* หอมแดงไทยซอย 3 หัวใหญ่

* กุ้งแห้ง

....ขาดผักบุ้งกับตูน สำหรับหั่นลงไปตำด้วยกัน

พริกขี้หนูของจริงใส่ไปเกือบ 20 เม็ด เพราะแค่นี้ไม่แซ่บบพอค่ะ

* ตำพริกขี้หนูกระเทียมให้ละเอียด

* เอาน้ำปูและกะปิลงไปตำให้เข้ากัน

* ฝานมะเขือบางๆ 1 ลูกลงไปบุบให้แตกนิดๆ

* เอาส้มโอลงไปบุบผสมให้เข้ากับเครื่องตำ

....ใช้ครกเล็กเพราะขี้เกียจล้างครกใหญ่ เลยเอาออกมาคลุกในชาม

ชิมรส ถ้าต้องการเค็มเพิ่มก็เติมน้ำปลา ส้มโอไม่เปรี้ยวพอเติมมะนาว

ใส่ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย กุ้งแห้ง ชอบทานมะเขือฝานใส่ไปอีก 1 ลูก 

 จับคลุกด้วยกันโลด

ทิ้งไว้สักพักให้น้ำส้มโอออกมายิ่งอร่อย
ทานกับใบชะพลู แต่ที่บ้านอิฉันถอนมาซะเหี้ยนไม่เหลือสักใบ ^^

ยำใหญ่ สูตรโบราณจากคุณตา

 ยำใหญ่ใส่สารพัด......วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา......ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อยำใหญ่จากกาพย์เห่เรือเครื่องคาวหวานมาแล้ว
สูตรนี้คงจะไม่ใช่สูตรเดียวกับในกาพย์เห่เรือ
แต่ก็คงใกล้เคียงและเป็นสูตรเก่าแก่ของบ้านคุณตาทวดมานานกว่าร้อยปี

 
แม่เคยเล่าเรื่องเก่าสมัยคุณตายังหนุ่มให้ฟังอยู่บ่อย โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน 

ตั้งแต่สมัยคุณตาทวด(พ่อของคุณตา)ที่เป็นพ่อค้าต้องติดต่อธุรกิจกับคนมากมายรวมทั้งคนต่างชาติ

ที่มาทำมาหากินที่เชียงใหม่ ที่บ้านคุณตาทวดจะมีงานเลี้ยงบ่อย  คุณตาก็เลยมีสูตรอาหารประจำบ้าน
ติดตัวมาด้วยหลังจากย้ายออกมามีครอบครัวของตัวเอง  คุณตามักจะเอามาทำให้ลูกๆ หลานๆ
หรือเลี้ยงเพื่อนฝูงแขกเหรื่ออยู่บ่อยๆ ทั้งแม่และพี่สาว(ลูกคุณป้าที่อยู่กับคุณตามาตั้งแต่เกิด)
จะพูดเหมือนกันเรื่องความพิถีพิถันในเรื่องอาหารการกินมาก แม่บอกว่าอาหารทุกอย่างต้อง
เครื่องเคียงครบ ถ้าไม่ครบก็ต้องหาให้ครบก่อนถึงจะได้กิน พี่สาวบอกว่าถ้าเป็นน้ำพริกอ่อง 
จะต้องมีลูกขนุนอ่อนๆหั่นเป็นแว่นๆแกล้มด้วย ถ้าเป็นน้ำพริกตาแดง จะต้องมีลูกมะม่วงอ่อนๆ
และใบหญ้าตดหมา ส่วนเราจำได้ว่าตอนเด็กปิดเทอมไปอยู่บ้านตา วันไหนทำน้ำพริกกะปิ
ต้องไปเดินเก็บกระถินริมรั้ว ถ้าวันไหนลืมไม่ใครคนใดคนหนึ่งในวงข้าวต้องโดนไล่ลงไปเก็บมาตั้งโต๊ะ


ครอบครัวคุณตาทวด 

 คุณตาจะมีอาหารที่ชอบทำเป็นพิเศษหลายอย่าง แกงมัสมัน แกงกะหรี่ แกงเทโพ สตูว์ลิ้นวัว ฯลฯ
และที่แม่จะพูดถึงบ่อยก็คงจะเป็นยำใหญ่ เพราะแม่จะติดตาตอนที่คุณตาทำใส่จานเปลใบใหญ่
ยกไปให้บาทหลวงฝรั่งที่วัดใกล้บ้าน แม่บอกว่าเวลาคุณตาทำอาหารส่งไปทีไร
บาทหลวงจะดีใจมาก เพราะในสมัยนั้นคนที่ทำอาหารให้บาทหลวงจะเป็นแม่ชีซึ่งไม่ใช่แม่ครัว
 ซึ่งอาหารทุกมื้อจะเป็นข้าวนึ่งกับอาหารพื้นเมือง 

เราเคยอ่านผ่านตาเกี่ยวกับยำใหญ่จากหนังสือหลายเล่มและจากในเนท ทั้งสูตรแบบเก่าแก่โบราณ
ของแต่ละตระกูลและสูตรใหม่ที่ดัดแปลงมา พวกเครื่องยำส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกัน แต่น้ำยำมีทั้งสูตรที่คล้ายกันและมีบางสูตรที่ต่างไปคนละเรื่องเลย(เข้าใจว่าเป็นสูตรใหม่ดัดแปลง) คุณตาจะทำยำใหญ่บ่อย
ในหน้าหนาว เพราะข้างบ้านจะมีแปลงปลูกผักสารพัด ตาจะต้มตับหมู ต้มหรือย่างคอหมูย่างที่มีทั้งส่วนเนื้อ ส่วนหนัง และส่วนมัน หั่นสไลด์ใส่ลงไปด้วย ส่วนน้ำยำจะต่างกับสูตรอื่นตรงที่
สูตรของตาจะใส่ถั่วตัดด้วย เวลาทานน้ำยำจะมีครบรส เปรี้ยว หวาน เผ็ด และเวลาทาน
ตรงถั่วตัดจะกรุบกรอบหวานๆ ทำให้สลัดมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น

สูตรที่ลงนี้ทำแบบดั้งเดิมของคุณตา
แต่ถ้าใครอยากเพิ่มเติมผักอะไรที่ชอบก็สามารถค่ะ
บ้านเราไม่ทานหมูพอเราเอามาทำเลยเปลี่ยนคอหมูย่างเป็นเนื้ออกไก่ฉีกแทน
ส่วนใครจะเพิ่มกุ้งลวก ปลาหมึกลวก หรือเนื้อสัตว์อื่นก็แล้วแต่ชอบนะคะ

* ผักกาดหอม
* หอมใหญ่

* มะเขือเทศ
* แตงร้านหรือแตงกวา
* ต้นหอมหั่นเป็นท่อน

* ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน
* อกไก่ฉีก 

* ไข่ต้ม 

* กระเทียมดองซอย 

 

 

ในส่วนของน้ำยำจะต่างจากสูตรโบราณสูตรอื่น

ตรงที่สูตรนี้จะใส่ถั่วตัดบุบหยาบลงไปด้วย

 

ส่วนผสมของน้ำยำสำหรับ 2-3 จาน

ส่วนผสมโดยประมาณปรับรสตามชอบ

เพราะขึ้นอยู่กับน้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำตาล น้ำกระเทียมที่ใช้ด้วย

* พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ดใหญ่ พริกแดงจินดา 8 เม็ด พริกขี้หนูสวน 8-10 เม็ด (ช่วยทำให้น้ำยำรสจัดขึ้น)

กระเทียม 3-4 กลีบ รากผักชี 1 ราก.....ตำทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน

* น้ำส้มสายช 1/2 ถ้วย

* น้ำตาลทราย 3-4 ช้อนโต๊ะทานข้าว

แม่บอกว่าคุณตาใช้น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บ

แต่เราเอาไปทำน้ำปลาหวานหมดแล้วอ่ะค่ะ เลยต้องใช้น้ำตาลทรายแทน ^_*

* น้ำกระเทียมดอง 4 ช้อนโต๊ะทานข้าว

* น้ำปลาครึ่งช้อนโต๊ะ

* ถั่วตัดตำหยาบ 5 แผ่น (ถ้าชอบก็เพิ่มโลดเลยค่ะ)

ผสมทุกอย่างให้เข้ากันและชิมรส ปรับรสเปรี้ยว หวานตามชอบ แต่อย่าลืมเผื่อหวานของถั่วตัดด้วยเน้อ

 ใส่ถั่วตัดในขั้นตอนสุดท้ายคนให้เข้ากัน ก่อนเสริฟ

บะหมี่กรอบราดหน้าไก่

คลี่เส้นให้กระจาย ไฟกลาง น้ำมันร้อนเอาเส้นลงแผ่ให้กระจาย จะทอดบะหมี่ให้สวย 

ต้องมีกระชอนใหญ่ไว้ช้อนเวลาตักขึ้นมาจะได้สวยสม่ำเสมอไม่กระดำกระด่างเยี่ยงนี้

ทีแรกว่าจะทำไก่หมักอย่างเดียว 

แต่มีลูกชิ้นปลากับปูอัดอยู่ เลยจัดลงไปด้วย

ไก่นำไปหมักใส่ตู้เย็นให้เครื่องหมักเข้าเนื้อก่อนนำไปปรุงสักก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง

หมักด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำมันงาเล็กน้อย 

 หมักรสให้จัดหน่อย เวลาทำน้ำราดหน้าจะได้ไม่ต้องปรุงแยะ 

วิธีทำน้ำราดหน้าใช้สูตรเดียวกับ ข้าวหน้าไก่ ได้เลยค่ะ ^^

บะหมี่กรอบราดหน้าต้องมีหน่อไม้ เห็ด ต้นหอม

ส่วนอย่างอื่นเป็น option เสริม

เจียวกระเทียมพอหอมใส่ไก่ลงผัด

ใส่ส่วนผสมอื่นลงผัด เติมน้ำ ชิมรสและปรุงเพิ่ม

ท้ายสุด ละลายแป้งมันฮ่องกงเติมลงไปข้นเหนียวตามแต่ชอบ

ใส่ต้นหอมตัดเป็นท่อนขั้นตอนสุดท้ายก่อนปิดเตา

....เราจะใช้แป้งมันฮ่องกงเพราะน้ำราดสีจะใสสวย ไม่คืนตัว

เครื่องตู้มไปหน่อย เลยดูดน้ำซุปจะหายจ้อย  

แต่ว่าหร่อยน๊า

ผัดฉ่าไก่ (พริกแกงใต้)

ผัดฉ่าจะใช้พริกกับกระเทียมสับหรือตำ ใส่พริกไทยอ่อน กระชาย มะเขือ ใบมะกรุด โหระพา
แต่อยากกินผัดพริกแกงใต้ และก็อยากใส่เครื่องผัดฉ่า
สำหรับเราผัดกับเนื้อสัตว์อะไรก็อร่อย ที่ชอบสุดก็เป็นผัดฉ่าลูกชิ้นปลากรายกับผัดฉ่าเนื้อเปื่อยๆ ติดมัน
แต่วันนี้ไม่มีทั้งปลากรายทั้งเนื้อติดมัน งั้นเป็นผัดฉ่าไก่แทนก็อร่อยได้เหมือนกัน

เครื่องสำหรับผัดฉ่า
พริกไทยอ่อน กระชายซอย ใบมะกรูด โหระพา
มะเขือเปาะ มะเขือพวก พริกชี้ฟ้าแดง

ใส่เครื่องผัดแบบพริกแกงใต้
เครื่องแกงใต้ กระเทียบบดหยาบ กะปิ
ผัดกับน้ำมันจนหอม

ไก่ใช้เนื้อส่วนสะโพกติดหนังติดมันผัดให้ทั่ว เติมน้ำขลุกขลิก
เติมเครื่องสำหรับผัดฉ่า
มะเขือเปาะ มะเขือพวง ตามด้วยพริกไทยอ่อน โรยกระชายซอย

ฉีกใบมะกรูด
โรยใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง

ผัดฉ่าพริกแกงใต้แบบตามใจคนกิน
เผ็ดร้อนเครื่องแกงกับพริกไทยอ่อนและกระชาย
เติมข้าวไม่ยั้งมือจริงๆ นะ

แซนวิชทอด

จะเป็นมื้อหนักหรือเป็นมื้อของว่างก็ได้ทั้งนั้น กับแซนวิชทอด กรอบนอกนุ่มใน

ถ้าได้เป็นไส้ชีสเยิ้มๆ ด้วย ขอบอกว่าฟิน จัดคู่กับสลัดผักสดตัดกันได้ลงตัวมาก

เราเองไม่ค่อยทานของทอดมันๆ แต่คนรอบข้างยังชอบทานอยู่
แม่ครัวก็ต้องหาเมนูมาหมุนเวียน ไม่งั้นนอกจากจะเบื่ออาหารแล้ว
ยังจะพาลเบื่อหน้าแม่ครัวเข้าไปอีก ตอนที่ทำเมนูนี้ครั้งแรกเพราะคนชอบของทอด

ไปทานที่ไหนมาไม่รู้แล้วบอกว่าอร่อย ให้ทำให้ทานหน่อย
ก็ว่ามันจะอร่อยเร๊อ มันต้องแหยะๆ อมน้ำมัน แฉะน้ำมัน แน่เลย (มีเถียงอีกแน่ะ)
แต่อ่ะนะ คนที่ไปทานมาเขาว่าอร่อย มันก็ต้องอร่อยสิน่า
พอทำออกมาชิ้นแรกก็ตัดออกมาชิมก่อน จากที่ว่าจะแค่ชิมนิดกลายเป็นชิมหมดชิ้น
กรอบนอกนุ่มใน ไม่มีอมน้ำมัน ทานตอนยังร้อนกับซอสที่ชอบ 

ยิ่งได้สลัดผักสดทานคู่ด้วยจะรักเลยค่ะ จนคนแนะนำแอบเย้ยว่าเป็นไงอร่อยสิ

ชะอมชุบไข่ทอด กรอบนอกนุ่มใน

ทำน้ำพริกกะปิ นอกจากจะมีปลาทูทอด ผักสด ผักต้ม ผักนึ่ง ผักทอดแล้ว
ุุถ้าขาดชะอมทอดไปบางทีเหมือนจะขาดใจ อ้าว....จริงๆ นะ แบบว่ามันไม่สุดน่ะ
วันนี้เลยจัดไข่ทอดชะอมแบบกรอบนอกนุ่มในมาฉายในบล๊อกอีกรอบ
หลังจากที่เคยเอาไปแปะไว้ที่เฟสมาเมื่อเดือนก่อน 

ชะอมเป็นหนึ่งในผักริมรั้วคู่ครัวไทย เคยดูรายการทีวีเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา
เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นแค่ผักริมรั้วแล้วสิคะ เพราะมีการนำมาปลูกกันเป็นล่ำเป็นสัน
แต่วิธีการปลูกไม่ได้เป็นแบบธรรมชาติ เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
ในการปลูกชะอมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่สวยงาม ถึงว่าไปตลาดส่วนใหญ่
จะเจอแต่ชะอมที่ใบดกฟูชูช่อสวยงามชวนให้ซื้อยิ่งนัก หลังจากดูรายการวันนั้นแล้ว
ตัวเองจะเลือกซื้อแต่ชะอมขี้เหร่ใบฟีบที่นอนตัวลีบอยู่บนแผงผักของแม่ค้าชาวบ้าน
ส่วนชะอมใบสวยดกฟููชูช่อเด่นสง่างามนั่นไม่ได้แอ้มตังค์อิฉัน
แต่ซื้อที่ไหนยังไงเพื่อความสบายใจ แช่และล้างหลายน้ำหน่อยแล้วกันเน้อ
...ใส่ชะอมแยะๆ อร่อยค่ะ แต่วันนี้มีชะอมเหลือเท่านี้....แฮ่     

  เจียวไข่ให้กรอบมีวิธีทำง่ายๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาว 2-3 หยดเล็กๆ (แยะไปไข่จะกระจายนะคะ)
 และตีไข่ฟูๆ น้ำมันร้อนๆ หยอดไข่ลงไปสูงๆ ให้ไข่กระจายทั่ว ก็ทำให้ไข่กรอบแล้ว
แต่บางคนก็บอกว่าทอดยังไงไม่กรอบ งั้นเราก็มาใช้ตัวช่วยนิดหน่อยแล้วกันเนาะ   ส่วนผสม

* ไข่ไก่ใบใหญ่ 2 ฟอง
* ชะอมปริมาณตามชอบ ล้างแช่น้ำหลายรอบก่อนแล้วสะเด็ดน้ำไว้
เด็ดยอดอ่อน และรูดเอาแต่ใบโดยรูดจากบนลงล่าง
เคยเจอร้านอาหารบางร้านตัดใส่ทั้งก้าน เวลาทานเจอก้านแข็งแล้วเสียอารมณ์
* แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ (ช้อนโต๊ะทานข้าว)
วันนี้อยากทานตรงกรอบๆ แยะหน่อยเลยใส่น้ำเพิ่มเข้าไปอีกเท่าเป็น 4 ช้อนโต๊ะ
* ปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา
* ตีให้เข้ากัน ใส่ชะอมลงไปคลุกเคล้า
....ปรับสัดส่วนน้ำที่ใช้ได้ตามต้องการ

วิธีทอดไข่  

* ใช้กระทะหรือหม้อใบเล็กทรงสูง
* ใส่น้ำมันที่ทอดให้ท่วมไข่ที่จะเทลงไป
* ตั้งน้ำมันให้ร้อนแต่อย่าให้น้ำมันไหม้
....ถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำมันร้อนพอหรือยัง ก็หยดไข่ลงไปในกระทะ
ถ้าไข่ดีดตัวฟู่ขึ้นมา ก็แสดงว่าใช้ได้แล้ว
* น้ำมันน้อยไปหรือน้ำมันไม่ร้อนจะทำให้ไข่ที่ทอดอมน้ำมันและไม่ฟู
* ใส่ไข่และเกลี่ยชะอมให้กระจายทั่ว หรี่ไฟลงเป็นไฟกลาง
* ปล่อยทิ้งไว้กะให้ด้านล่างเหลือง ค่อยพลิกทอดอีกด้านให้เหลือง

พอไข่เหลืองจนเกือบได้ที่ ปรับไฟให้ร้อน
พลิกอีกครั้งแล้วเอาขึ้นมาพักใส่ตะแกรงทันที
ให้ไข่มาสุกต่อข้างนอกจากน้ำมันที่ยังอยู่ในตัวไข่
อย่ารอให้เหลืองจัดแล้วเอาขึ้น ไม่งั้นจะได้กินไข่ดำกรอบแทน





ครั้งนี้ทอดด้วยกระทะใบใหญ่ สัดส่วนของไข่กับชะอมที่เตรียมไว้ไม่มากพอสำหรับกระทะ
ไข่ที่ได้จะไม่ได้ไข่อย่างหนา แต่ก็ฟู กรอบนอกนุ่มใน
....งวดนี้ใส่น้ำไป 4 ช้อนโต๊ะ เลยได้ไข่ฟูๆ หน้าตาแบบนี้    

 

แต่ถ้าใช้กระทะใบเล็กหรือหม้อก้นลึกจะได้เนื้อไข่หนาๆ กรอบนอกนุ่มใน

....ใส่น้ำน้อยหน่อยแค่ 2 ช้อนโต๊ะ ด้านนอกกรอบแต่เนื้อไข่ข้างในจะแน่นแต่นุ่ม





พอดีกับทางผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานซันไลต์
ส่งน้ำยาล้างจานซันไลต์เลมอน เทอร์โบ มาให้ทดลองใช้       
เลยปิดท้ายเมนูเด็ดวันนี้ด้วยการขจัดคราบมันของกระทะด้วย "ซันไลต์ เลมอน เทอร์โบ" ขวดสีเหลือง
กลิ่นน้ำยาล้างจานจะหอมมะนาวอ่อนๆ     

    ....ล้างคราบน้ำมันออกได้ง่าย
ต่อให้ต้องทอดอีกกี่ครั้ง คราบมันเยิ้ม เหนียวหนึบขนาดไหนก็ล้างออกหมด
ของเขาดีจริง อะไรจริง กับพลังขจัดคราบมันที่เทียบเท่ากับมะนาว 100 ลูก
คราบมันที่ว่าเหนียวเยิ้ม ล้างออกยากแค่ไหน "ซันไลต์ เลมอน เทอร์โบ" เอาอยู่    

 
 ไม่ว่าจะจาน ชาม หม้อ กระทะ แก้ว หรือภาชนะอะไร
คราบมันก็ไม่มีเหลือ ของดีแบบนี้ต้องบอกต่อจ้า
ติดตามเทคนิคการขจัดคราบมันและทำความสะอาดภาชนะให้สะอาดหมดจดกับซันไลต์ได้ทาง ---> facebook/sunlightth